บทความวิจัย | การป้องกันการทุจริต: พยาบาลกับการแจ้งเบาะแสในหน่วยบริการสุขภาพ

การแจ้งเบาะแสของบุคลากรในหน่วยสุขภาพหรือระบบสุภาพเป็นการป้องกันการทุจริต และยังช่วยให้เกิดความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในการทำงาน ในการดำเนินการควรมีแนวทางส่งเสริมการแจ้งเบาะแสเพื่อให้ผู้แจ้งเกิดความปลอดภัย และไม่เกิดความยากลำบากในการปฏิบัติงานต่อไป

 

พฤติกรรมการทุจริตของบุคลากรในระบบสุขภาพก่อให้เกิดความเสียหายและไม่ปลอดภัยต่อผู้รับบริการทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยอาจส่งผลต่อชีวิต ทรัพย์สิน และความปลอดภัยของผู้รับบริการและครอบครัว

 

การศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาการทุจริตและการแจ้งเบาะแส และเสนอแนวทางการส่งเสริมพฤติกรรมการแจ้งเบาะแสสำหรับพยาบาลวิชาชีพในหน่วยบริการสุขภาพ โดยใช้วิธีการศึกษาแบบทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับการทุจริตและการแจ้งเบาะแส  

 

ผลการศึกษา พบว่า การแจ้งเบาะแสของบุคลากรในหน่วยสุขภาพหรือระบบสุภาพเป็นการป้องกันการทุจริต อีกทั้งยังช่วยให้เกิดความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในการทำงาน อย่างไรก็ตาม ก่อนการแจ้งเบาะแสควรมีการรวบรวมข้อมูลและตรวจสอบความถูกต้องและความเชื่อถือของข้อมูลก่อนการแจ้งเบาะแสทั้งภายในและภายนอก นอกจากนี้ การแจ้งเบาะแสอาจนำมาซึ่งอันตรายสำหรับพยาบาลผู้แจ้งเบาะแสทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และบุคคลที่เกี่ยวข้อง

 

ดังนั้น จึงต้องมีแนวทางสำหรับส่งเสริมพฤติกรรมการแจ้งเบาะแสให้กับพยาบาลวิชาชีพ เพื่อให้พยาบาลวิชาชีพสามารถแสดงบทบาทการแจ้งเบาะแสได้อย่างปลอดภัย และไม่เกิดความกังวลหรือความยากลำบากในการปฏิบัติงาน 

เอกสารอ้างอิง

รูปแบบ APA

ทิพย์ฆัมพร เกษโกมล และอภิสิทธิ์ ตามสัตย์. (2562). การป้องกันการทุจริต: พยาบาลกับการแจ้งเบาะแสในหน่วยบริการสุขภาพ. วารสารพยาบาลทหารบก, 20(3), 7985.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2562
ผู้แต่ง
  • ทิพย์ฆัมพร เกษโกมล
  • อภิสิทธิ์ ตามสัตย์ 
วารสารที่ตีพิมพ์

หัวข้อ
Related Content

ราชการไทยไร้คอร์รัปชัน : การสำรวจความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่รัฐต่อการแจ้งเบาะแสการทุจริต

ศึกษาปัญหาการแจ้งเบาะแสการทุจริตในราชการไทย โดยใช้กลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่จากหน่วยงานรัฐส่วนกลาง และส่วนท้องถิ่น เพื่อสำรวจความเห็นของเจ้าหน้าที่รัฐและพฤติกรรมการแจ้งเบาะแสการทุจริต

มาตรการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชัน

ศึกษากลไกการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชันและแนวทางเสริมสร้างกลไกการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสคอร์รัปชันที่สอดคล้องกับสภาพปัญหา ข้อเท็จจริง และสิทธิเสรีภาพ

บทความวิจัย | มาตรการในการให้ความคุ้มครองข้าราชการผู้ใช้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ

คดีเกี่ยวกับการคอร์รัปชันในวงราชการก่อให้เกิดผลเสียต่อการบริหารของรัฐ เพื่อสนับสนุนให้พยานที่เป็นข้าราชการกล้าเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น จึงควรแก้ไขพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อหน้าที่การงานของผู้ให้ข้อมูล

You might also like...

แนวโน้มการฟอกเงินในประเทศไทย: ศึกษาเฉพาะกรณีการฟอกเงินผ่านนิติบุคคล และธุรกิจบังหน้า ทนายความและนักบัญชี บริษัทนำเที่ยว ทรัสต์ต่างประเทศที่ดำเนินการในประเทศไทย การเล่นแชร์ที่มีการฉ้อโกงและการฟอกเงินผ่านองค์กรไม่แสวงหากำไร 

เมื่อการฟอกเงินเป็นปัญหาร้ายแรงที่ยังคงแพร่หลายในสังคมไทย การแก้ไขปัญหาจึงต้องลองศึกษาแนวทางที่ประสบความสำเร็จจากต่างประเทศ เพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทประเทศไทยในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

ยุุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในโครงการพัฒนาของรัฐระดับชุมชน

จากการวิเคราะห์ TOWS Matrix 4 ของโครงการต่าง ๆ ของรัฐ สามารถพัฒนาเป็นโมเดลยุทธศาสตร์ เพื่อช่วยลดปัญหาคอร์รัปชันในโครงการพัฒนาของรัฐระดับชุมชนได้

ปัจจัยที่กำหนดการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล

เมื่อการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นสัมพันธ์กับการเมืองระดับชาติ เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและพรรคการเมืองอยู่ในรูปแบบความสัมพันธ์แบบเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ปัญหาการทุจริตจึงฝังรากลึกอยู่ในการเลือกตั้งทุกระดับ