บทความวิจัย | การวิเคราะห์แนวคิดและข้อเสนอเพื่อการประยุกต์ใช้ธรรมาภิบาลในการบริหารองค์กรการเงินชุมชนในสังคมไทย

หลักธรรมาภิบาลเป็นแนวทางการบริหารที่มีการนำไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างประสิทธิภาพให้องค์กร ดังนั้น การวิเคราะห์แนวคิดและข้อเสนอเพื่อการประยุกต์ใช้ธรรมาภิบาลในการบริหารองค์กรการเงินชุมชนในสังคมไทย จึงเป็นกรอบแนวทางให้การบริหารองค์กรการเงินชุมชนมีประสิทธิภาพต่อไป

 

ธรรมาภิบาลเป็นแนวทางการบริหารที่มีการนำไปประยุกต์ใช้ทั้งการบริหารงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมที่เพื่อเป็นกรอบในการทำงานที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งภายในและภายนอกองค์กรในหลายด้าน บทความนี้ จึงสนใจที่จะวิเคราะห์แนวคิดและข้อเสนอเพื่อการประยุกต์ใช้ธรรมาภิบาลในการบริหารองค์กรการเงินชุมชนในสังคมไทยเพื่อประโยชน์ต่อองค์กรในการนําไปเป็นกรอบแนวทางการบริหารให้มีประสิทธิภาพ

 

ผู้วิจัยได้วิเคราะห์กรอบแนวคิดทางการบริหาร ออกเป็น 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านผู้นํา ด้านการบริหาร การพัฒนาชุมชนและการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน และด้านการสร้างและการพัฒนาเครือข่าย โดยในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้วิเคราะห์เชื่อมโยงแนวคิดธรรมาภิบาลในการบริหารองค์กรการเงินชุมชนในสังคมไทย เพื่อพัฒนาการบริหารที่ดีและมีประสิทธิภาพขององค์กรการเงินชุมชน 

 

ผู้วิจัยได้นำเสนอเเนวทางการประยุกต์ใช้ธรรมาภิบาลในการบริหารองค์กรการเงินชุมชนในสังคมไทย ที่จะต้องพัฒนาศักยภาพของความเป็นผู้นําและความรับผิดชอบในทางการบริหาร ในด้านการบริหาร ที่ผู้บริหารที่ดีนั้นต้องมีการกํากับดูแลกิจการที่ดี การมีส่วนร่วมของสมาชิก และเน้นฉันทามติในการบริหาร ด้านการพัฒนาชุมชน ตามแนวคิดธรรมาภิบาล นั่นคือ ความสามารถในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ขององค์กรการเงินชุมชน คือต้องสามารถสร้างเสริมการพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็งต่อไปได้โดยการกระจายอํานาจใน การตัดสินใจให้กับชุมชน และด้านเครือข่าย ตามแนวคิดธรรมาภิบาล คือ การบริหารที่ดีจะต้องสร้างและพัฒนาเครือข่ายเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กร 

 

เอกสารอ้างอิง

รูปแบบ APA

นันธิดา จันทร์ศิริ. (2559). การวิเคราะห์แนวคิดและข้อเสนอเพื่อการประยุกต์ใช้ธรรมาภิบาลในการบริหารองค์กรการเงินชุมชนในสังคมไทย. วารสารสถาบันวิจัยญาณสังวร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 7(1), 162-169.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2559
ผู้แต่ง

นันธิดา จันทร์ศิริ

วารสารที่ตีพิมพ์

หัวข้อ
Related Content

โครงการศึกษาพรมแดนและช่องว่างความรู้เรื่องคอร์รัปชันและธรรมาภิบาล เพื่อสนับสนุนการจัดทำแผนบูรณาการด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปี พ.ศ. 2566-2570

ศึกษาพัฒนาการของงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชันและธรรมาภิบาลในประเทศไทย เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะต่อแนวทางการสนับสนุนการพัฒนางานวิจัยในประเด็นคอร์รัปชัน และธรรมาภิบาลในอนาคต

โครงการวิจัยการสังเคราะห์รูปแบบ กลไกและแนวทางการปลูกฝังเจตคติและวัฒนธรรมสุจริตเพื่อการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

ศึกษาพัฒนาการของรูปแบบ กลไก และแนวทางการปลูกฝังเจตคติ และวัฒนธรรมสุจริตที่มีผลต่อการป้องกันการทุจริตของไทย และศึกษากรณีของต่างประเทศ เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอแนะต่อไป

โครงการวิจัยการศึกษาแนวทางความร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

นำเสนอแนวคิดและกิจกรรมที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงานของ ป.ป.ช. ในการแก้ไขปัญหาการทุจริต และเสนอแนวทางการพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกันผ่านกระบวนการประสานข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

You might also like...

แนวโน้มการฟอกเงินในประเทศไทย: ศึกษาเฉพาะกรณีการฟอกเงินผ่านนิติบุคคล และธุรกิจบังหน้า ทนายความและนักบัญชี บริษัทนำเที่ยว ทรัสต์ต่างประเทศที่ดำเนินการในประเทศไทย การเล่นแชร์ที่มีการฉ้อโกงและการฟอกเงินผ่านองค์กรไม่แสวงหากำไร 

เมื่อการฟอกเงินเป็นปัญหาร้ายแรงที่ยังคงแพร่หลายในสังคมไทย การแก้ไขปัญหาจึงต้องลองศึกษาแนวทางที่ประสบความสำเร็จจากต่างประเทศ เพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทประเทศไทยในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

ยุุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในโครงการพัฒนาของรัฐระดับชุมชน

จากการวิเคราะห์ TOWS Matrix 4 ของโครงการต่าง ๆ ของรัฐ สามารถพัฒนาเป็นโมเดลยุทธศาสตร์ เพื่อช่วยลดปัญหาคอร์รัปชันในโครงการพัฒนาของรัฐระดับชุมชนได้

ปัจจัยที่กำหนดการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล

เมื่อการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นสัมพันธ์กับการเมืองระดับชาติ เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและพรรคการเมืองอยู่ในรูปแบบความสัมพันธ์แบบเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ปัญหาการทุจริตจึงฝังรากลึกอยู่ในการเลือกตั้งทุกระดับ