แนวหน้าต่อต้านคอร์รัปชัน : บทเรียนจากตึก สตง.: จริยธรรมและความโปร่งใสแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ

เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในภัยธรรมชาติที่รุนแรงที่สุดในรอบร้อยปีของประเทศไทย ได้สร้างความเสียหายและความสูญเสียในหลายพื้นที่ ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่สูญเสียและทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากภัยครั้งนี้

ในฐานะวิศวกรโครงสร้าง เหตุการณ์ครั้งนี้กระทบใจอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อเห็นภาพอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังถล่มลงมาระหว่างแผ่นดินไหว กลายเป็นกองซากคอนกรีตสูงหลายชั้น ทับชีวิตของผู้รับเหมา วิศวกร และคนงานจำนวนมาก เป็นภาพที่เจ็บปวดเกินจะบรรยาย และเป็นฝันร้ายที่สุดของวิศวกรอย่างผม

ทั้งๆ ที่อาคารหลายแห่งที่ผมได้ออกแบบไว้เมื่อ 30-40 ปีก่อน ยังสามารถยืนหยัดผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้มาได้ แม้จะออกแบบ คำนวณ แล้วเขียนด้วยลายมือ ไม่ได้ใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์ทันสมัย หรือซูเปอร์คอมพิวเตอร์อย่างในปัจจุบัน

สิ่งที่ทำให้ตึกเหล่านั้นยังยืนหยัดอยู่ได้ อาจไม่ใช่เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่คือจริยธรรม ความรับผิดชอบ และความซื่อสัตย์ของวิศวกรที่ลงมือทำอย่างแท้จริง

หลายปีก่อน ผมได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งที่ผมภาคภูมิใจที่สุด คือ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ซึ่งมีวาระเพียง 2 ปี ในช่วงเวลานั้น ผมพยายามผลักดันให้จรรยาบรรณวิชาชีพวิศวกรเป็นเรื่องที่ต้องเข้มงวด โดยเฉพาะหลักการพื้นฐานที่สุดคือ “ห้ามลงนามในงานที่ตนไม่ได้ควบคุมจริง”

ในวันนี้ที่ผมรับหน้าที่เป็น 1 ใน 4 ของคณะผู้สังเกตการณ์อิสระในโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. ตามกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างปี 2560 ซึ่งกำหนดให้มีบุคคลที่สามเข้าร่วมตรวจสอบโครงการขนาดใหญ่ แต่เราเข้ามาแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ คือหลังจากที่มีแบบ มีร่างขอบเขตของงาน (TOR) และมีผู้รับเหมาแล้ว เราจึงดูได้เพียงว่า คณะกรรมการของ สตง. เข้มงวดเรื่องการอนุมัติ แก้ไข เปลี่ยนแปลง แบบ และสัญญาหรือไม่เท่านั้น ซึ่งมีการบันทึก การประชุมไว้ในระบบ Zoom แล้วทุกๆ การประชุม เป็นหลักฐานที่สามารถเรียกดูได้

ผมจึงรู้สึกเสียใจอย่างที่สุดที่ไม่สามารถใช้ความรู้ประสบการณ์ ป้องกันมิให้เกิดเหตุวิบัติร้ายแรงลักษณะนี้ได้

เหตุการณ์เป็นบทเรียนสำคัญที่ตอกย้ำถึงความจำเป็นของเครื่องมือหนึ่งที่มีศักยภาพสูงในการป้องกันการทุจริตและยกระดับคุณภาพของโครงการรัฐ นั่นคือ “ข้อตกลงคุณธรรม” (Integrity Pact)

ข้อตกลงคุณธรรม คือกลไกที่เปิดให้ประชาชนผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ อาทิ วิศวกรรม บัญชี หรือกฎหมาย โดยเฉพาะผู้มีประสบการณ์สูง เข้าร่วมเป็น “ผู้สังเกตการณ์อิสระ” ในโครงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ที่มีงบประมาณสูง และเสี่ยงต่อการทุจริต

ผู้สังเกตการณ์อิสระควรจะได้ร่วมตรวจสอบตั้งแต่การร่าง TOR ไปจนถึงการประชุมคัดเลือกผู้รับเหมา พร้อมสามารถทักท้วงได้ทันทีหากพบความผิดปกติ นอกจากนี้ หากการทักท้วงไม่ได้รับการตอบสนอง ก็ควรจะสามารถรายงานต่อองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เพื่อดำเนินการต่อได้อย่างเป็นระบบ

จากรายงานขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ปัจจุบันมีผู้ทรงคุณวุฒิอาสาปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์อิสระจำนวน 252 คน ร่วมสังเกตการณ์ 178 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2 ล้านล้านบาท ประหยัดงบประมาณประเทศได้ถึง 77,548 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.7 ของงบประมาณรวม

ปัญหาคือ…ทำไมรัฐกลับลดความสำคัญของเครื่องมือนี้? แม้ข้อตกลงคุณธรรมจะมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ แต่ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา รัฐกลับลดงบประมาณและจำนวนโครงการที่เข้าร่วม เหลือไม่ถึง1 ใน 3 ของช่วงเริ่มต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคที่ปัญหาคอร์รัปชันยังเป็นมะเร็งร้ายกัดกินประเทศ

นี่จึงอธิบายว่า เมื่อไม่มีผู้สังเกตการณ์ตั้งแต่ต้น จึงไม่สามารถทักท้วง TOR ที่อาจมีการล็อกสเปก หรือการเลือกผู้รับเหมาที่ไม่มีคุณภาพได้

สิ่งหนึ่งที่ประชาชนอย่างเราสามารถทำได้ในวันนี้คือ ร่วมกันส่งเสียงดังๆ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล นำข้อตกลงคุณธรรมกลับมาใช้อย่างจริงจังตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการในทุกโครงการขนาดใหญ่ ไม่ใช่มาแบบครึ่งๆ กลางๆ ควรขยายงบประมาณและจำนวนผู้สังเกตการณ์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และยกระดับความร่วมมือระหว่างภาคประชาชน รัฐ และผู้เชี่ยวชาญอย่างเป็นระบบ

เราต้องแสดงพลังให้ชัดว่า สังคมไทยต้องการความโปร่งใส และต้องการให้ข้อตกลงคุณธรรมทำหน้าที่ของมันต่อไป

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2568
ผู้แต่ง
  • รศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค
  • รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค
หน่วยงานสนับสนุน

หัวข้อ
Related Content

แนวหน้าต่อต้านคอร์รัปชัน : โอปป้า เพื่อระบบที่ดีสร้างสังคมยั่งยืน

โอปป้าจ๋าช่วยด้วยยยย ! ทำไมคอร์รัปชันยังไม่หมดไปสักที หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่า ทำไมเราถึงอยากปฏิรูปการศึกษาก็ทำไม่ได้ อยากป้องกันทรัพยากรธรรมชาติก็ทำได้ยากเพราะมีคนแย่งหาผลประโยชน์กันเต็มไปหมด หรือแม้แต่การสร้างสวัสดิการที่ดีให้กับประชาชนก็ดันไม่ถึงมือประชาชนอีก ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมาจากการคอร์รัปชันที่ยังไม่สามารถแก้ไขให้หมดไปได้นั่นเอง

แนวหน้าต่อต้านคอร์รัปชัน : เวทีต้านโกงระดับโลก เขาพูดคุยอะไรกัน

4 ประเด็นน่าสนใจจาก “Summit for Democracy 2023” การประชุมระดับโลกเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ผศ. ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค ผู้ร่วมก่อตั้งและที่ปรึกษา HAND Social Enterprise HANDSocialEnterprise ได้รับเชิญจากรัฐบาลเกาหลีใต้ให้ไปร่วมเสวนาในงาน Summit for Democracy 2023 หัวข้อหลักงานปีนี้คือ “การต่อต้านคอร์รัปชัน” เชื่อมโยงคำอธิบายว่า การคอร์รัปชันบ่อนทำลายประชาธิปไตย ในทางกลับกันประเทศที่ประชาธิปไตยไม่เข้มแข็งจะทำให้คอร์รัปชันสูงขึ้น

แนวหน้าต่อต้านคอร์รัปชัน : เรามีคนโกงเพิ่มขึ้น หรือ เราจับคนโกงได้มากขึ้น

แจ้งไม่เยอะแน่นะวิ ! ปี 65 พบการแจ้งเรื่องทุจริตเกือบ 10,000 เรื่องในไทย เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทั้งๆ ที่มีหน่วยงานปราบโกงที่มีอำนาจทางกฎหมายล้นเหลืออยู่หลายหน่วยงาน ทำไมระดับการคอร์รัปชันของไทยยังดูจะแย่ลงเรื่อยๆ

You might also like...

KRAC Insight | การเพิ่มขีดความสามารถภาครัฐ และลดคอร์รัปชัน ในฐานะ “นโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม”

KRAC ชวนทุกท่านร่วมเจาะลึกนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมที่มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุกของภาครัฐ เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ให้แข่งขันได้มากยิ่งขึ้น และเป็นแนวทางในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับประเทศเพื่อการแข่งขันในตลาดโลก

KRAC Insight x C4 Centre | ความเสี่ยงต่อการเกิดคอร์รัปชันที่แฝงอยู่ในรูปแบบของการจัดซื้อจัดจ้างที่หลากหลาย

รู้หรือไม่? การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมีหลายรูปแบบ และในแต่ละรูปแบบก็ซ่อน “ความเสี่ยงคอร์รัปชัน” ไว้ต่างกัน! KRAC ร่วมกับ C4 Centre มาเลเซีย เปิดเผยประเด็นร้อนจากเวทีประชุมระดับภูมิภาค SEA-ACN ว่าความเสี่ยงคอร์รัปชันซ่อนอยู่ใน PPP, PFI, G2G, Strategic Partnership รวมถึงการจัดซื้อในสถานการณ์ฉุกเฉินอีกด้วย

KRAC Extract | คอร์รัปชันหลังเเผ่นดินไหว: โอกาสแห่งการฟื้นตัวหรือประตูสู่การทุจริต

คอร์รัปชันหลังแผ่นดินไหว…เมื่อเงินฟื้นฟูหลั่งไหล แต่ความโปร่งใสกลับหายไป! กรณีศึกษาจากตุรกี ที่เผยให้เห็นว่าภัยพิบัติอาจเปิดช่องให้การทุจริตแทรกซึมได้ทุกขั้นตอนของกระบวนการจัดการหลังภัยพิบัติ บทเรียนนี้ไม่ใช่แค่ของต่างประเทศ แต่คือสัญญาณเตือนที่ไทยก็ต้องระวังเช่นกัน!