บทความวิจัย | การวิเคราะห์ปัญหาของผลประโยชน์ทับซ้อนของผู้บริหารประเทศ

จากการวิเคราะห์ปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนของผู้บริหารประเทศพบว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ที่มีบทบัญญัติให้นักการเมืองปลอดจากผลประโยชน์ทับซ้อนไม่มีประสิทธิผลมากพอ จึงควรแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อแก้ไขปัญหา
 

ความไม่เข้าใจเกี่ยวกับปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนทำให้ประชาชนขาดการวินิจฉัยความผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และมีความเห็นว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจเป็นความชอบธรรมของบุคคลผู้มีฐานะร่ำรวยที่จะเข้าสู่การมีอำนาจทางการเมืองได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การมองข้ามการทุจริตและไม่ให้ความสำคัญในการตัดสินใจเลือกตั้ง  สถานการณ์เช่นนี้ สะท้อนถึงความผิดปกติในสังคมและความบิดเบือนจากหลักการที่ถูกต้อง

 

การวิเคราะห์เริ่มต้นจากการอธิบายเหตุผลความจำเป็นที่สังคมมนุษย์ต้องมีรัฐบาล โดยใช้ทฤษฎีเกมที่เรียกว่า “ความล้มเหลวของผู้ต้องหา” (Prisoners’ Dilemma) เพื่อเป็นเครื่องมือในการอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในกรณีที่ไม่มีรัฐบาลหรือการจัดการที่เหมาะสม ผู้คนมักจะเลือกทางเลือกที่ทำให้ตัวเองได้ประโยชน์สูงสุด แม้จะเป็นผลเสียต่อสังคมโดยรวม หลังจากนั้นจะวิเคราะห์การกำเนิดของรัฐบาลในฐานะที่เป็นทางออกในการจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ในสังคม และพิจารณาปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน ที่ทำให้เกิดความทุจริตและส่งผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาล เพื่อเสนอแนวทางในการสร้างรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพและยุติธรรมต่อไป

 

ผลการศึกษาพบว่า นักการเมืองมีผลประโยชน์ทับซ้อนย่อมมีผลประโยชน์จูงใจให้สะสมอำนาจทางการเมืองเพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่งให้ตนเองและใช้ความมั่งคั่งสะสมอำนาจทวีคูณอย่างไม่รู้จบ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 มีบทบัญญัติให้นักการเมืองปลอดจากผลประโยชน์ทับซ้อนแต่ยังคงล้มเหลวในการสกัดกั้นปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน ความขัดแย้งเพื่อสกัดกั้นปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงเป็นความชอบธรรมในการป้องกันสังคมไทยมิให้ก้าวเข้าสู่แดนของสังคมทาส และในการรักษาสมดุลของขั้วความขัดแย้งเพื่อให้ปราศจากการครอบงำแบบเบ็ดเสร็จเพื่อคุ้มครองอิสรภาพและเสรีภาพของคนไทยอย่างเสมอภาค 

เอกสารอ้างอิง

รูปแบบ APA

สมพจน์ กรรณนุช. (2550). การวิเคราะห์ปัญหาของผลประโยชน์ทับซ้อนของผู้บริหารประเทศ. วารสารจัดการสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน, 3(1), 117140.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2550
ผู้แต่ง

สมพจน์ กรรณนุช

วารสารที่ตีพิมพ์

หัวข้อ
Related Content

โครงการสำรวจการรับรู้และความเข้าใจด้านการขัดกันแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) ของเจ้าหน้าที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดของประเทศไทย

ศึกษาและสํารวจข้อมูลระดับการรับรู้ของเจ้าหนาที่รัฐในองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีต่อความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ (Conflict of Interest) เพื่อลดพฤติกรรมความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ในอนาคต

โครงการศึกษาเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาต โดยใช้อำนาจรัฐ

ศึกษาการตรวจสอบดุลพินิจของฝ่ายปกครองในการออกใบอนุญาต และศึกษากฎหมายต่างประเทศเพื่อเสนอแนะมาตรการทางกฎหมายในการป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากการอนุญาตโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ

โครงการศึกษาความเหมาะสมและความพร้อมของประเทศไทยในการเข้าเป็นภาคีในอนุสัญญาขององค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ ค.ศ.1997 ว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศ

ศึกษาความพร้อมของไทยในการเข้าเป็นภาคีตามอนุสัญญาองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ ค.ศ.1997 ว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศ

You might also like...

แนวโน้มการฟอกเงินในประเทศไทย: ศึกษาเฉพาะกรณีการฟอกเงินผ่านนิติบุคคล และธุรกิจบังหน้า ทนายความและนักบัญชี บริษัทนำเที่ยว ทรัสต์ต่างประเทศที่ดำเนินการในประเทศไทย การเล่นแชร์ที่มีการฉ้อโกงและการฟอกเงินผ่านองค์กรไม่แสวงหากำไร 

เมื่อการฟอกเงินเป็นปัญหาร้ายแรงที่ยังคงแพร่หลายในสังคมไทย การแก้ไขปัญหาจึงต้องลองศึกษาแนวทางที่ประสบความสำเร็จจากต่างประเทศ เพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทประเทศไทยในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

ยุุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในโครงการพัฒนาของรัฐระดับชุมชน

จากการวิเคราะห์ TOWS Matrix 4 ของโครงการต่าง ๆ ของรัฐ สามารถพัฒนาเป็นโมเดลยุทธศาสตร์ เพื่อช่วยลดปัญหาคอร์รัปชันในโครงการพัฒนาของรัฐระดับชุมชนได้

ปัจจัยที่กำหนดการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล

เมื่อการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นสัมพันธ์กับการเมืองระดับชาติ เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและพรรคการเมืองอยู่ในรูปแบบความสัมพันธ์แบบเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ปัญหาการทุจริตจึงฝังรากลึกอยู่ในการเลือกตั้งทุกระดับ