ศึกษาระดับความไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อจริยธรรมความซื่อสัตย์ของข้าราชการ และศึกษาสาเหตุที่เป็นอุปสรรคต่อความไว้วางใจ เพื่อเสนอมาตรการที่ส่งเสริมจริยธรรมและวัฒนธรรมความไว้วางใจ
งานวิจัยเรื่องนี้ มุ่งศึกษาระดับความไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อศีลธรรม ความซื่อสัตย์ของข้าราชการ และศึกษาสาเหตุที่เป็นอุปสรรคต่อความไว้วางใจ เพื่อนำเสนอมาตรการที่ส่งเสริมจริยธรรมและวัฒนธรรมความไว้วางใจ
โดยใช้วิธีการวิจัยเเบบผสมผสาน ได้เเก่ การจัดทำแบบสอบถามกับประชาชน 13 กลุ่มอาชีพ จำนวน 2,665 คน ได้แก่ กลุ่มข้าราชการการเมือง กลุ่มข้าราชการประจำ กลุ่มพนักงานรัฐวิสาหกิจ กลุ่มนักวิชาการและอาจารย์ กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจและอุตสาหกรรมภาคเอกชน กลุ่มพนักงานเอกชน กลุ่มนักสื่อสารมวลชน กลุ่มผู้ประกอบการค้า กลุ่มเกษตรกร กลุ่มผู้มีอาชีพรับจ้าง กลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา กลุ่มเจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชน และกลุ่มอาชีพอื่น ๆ จากทุกภูมิภาคในประเทศไทย โดยการสุ่มตัวอย่างแบบผสมผสานวิธี (multi-stage sampling technique) นอกจากนี้ ยังใช้การสัมภาษณ์ประชากรเป้าหมายจำนวน 390 ราย โดยอาศัยวิธีการสุ่มเลือก (random sampling technique)
สรุปประเด็นจากงานวิจัย
ผลการศึกษาเรื่องความไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อจริยธรรมความซื่อสัตย์ของข้าราชการประจำ พบว่าความไว้วางใจ และการรับรู้จริยธรรมความซื่อสัตย์ของข้าราชการ อยู่ที่ระดับปานกลาง ในส่วนของพฤติกรรมประจำวันที่สะท้อนความซื่อสัตย์ข้าราชการ อยู่ต่ำกว่าพฤติกรรมที่ประชาชนคาดหวัง โดยพฤติกรรมที่สะท้อนความซื่อสัตย์ของข้าราชการ กับ พฤติกรรมที่อยู่ในความคาดหวังของประชาชน ได้เเก่ (1) ต้องการให้พฤติกรรมของข้าราชการตอบสนองเป้าหมายของหน่วยงาน (2) ต้องการให้การบริการสาธารณะประจำวันของข้าราชการมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น (3) พลเมืองรับรู้ถึงการปฏิบัติด้วยความไม่เท่าเทียมกันตามพื้นฐานของกฎหมายและความยุติธรรม (4) ต้องการให้ข้าราชการใช้ทรัพยากรสาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความเหมาะสม และ (5) ต้องการให้กระบวนการตัดสินใจในการดำเนินงาน เป็นไปอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบอย่างละเอียด และทำการปรับปรุงให้ถูกต้องได้
- ผลการศึกษา ชี้ว่าปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมวัฒนธรรมความไว้วางใจในสังคมไทย ได้แก่ (1) คุณค่าความซื่อสัตย์ (2) ผู้นำที่มีจริยธรรม (3) คุณค่าข้าราชการ และความเป็นมืออาชีพ (4) อุดมการณ์ในการบริการสาธารณะ (5) ความไว้วางใจในระบบราชการ (6) คุณค่าประชาธิปไตย และการบังคับใช้กฎหมายอย่างยุติธรรมโดยไม่แบ่งแยก และ (7) การปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล
- ข้อเสนอแนะด้านการเสริมสร้างจริยธรรม ความซื่อสัตย์ของข้าราชการประจำ เพื่อสร้างวัฒนธรรมความไว้วางใจ คือ การใช้มาตรการด้านศีลธรรมความซื่อสัตย์ขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development : OECD) ประกอบด้วย การไม่คอร์รัปชัน การรักษาผลประโยชน์สาธารณะและความยุติธรรม ความโปร่งใส ความพร้อมรับผิด การเคารพคุณค่าศักดิ์ศรีและความแตกต่างของบุคคล การยึดมั่นกับสิ่งที่ดีเลิศ และการธำรงรักษาความไว้วางใจสาธารณะ
ชนิดา จิตตรุทธะ. (2557). วัฒนธรรมความไว้วางใจกับจริยธรรมของข้าราชการไทย. วารสารวิชาการ ป.ป.ช., 7(2), 63-84.
ชนิดา จิตตรุทธะ
หัวข้อ
โครงการศึกษาพรมแดนและช่องว่างความรู้เรื่องคอร์รัปชันและธรรมาภิบาล เพื่อสนับสนุนการจัดทำแผนบูรณาการด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปี พ.ศ. 2566-2570
ศึกษาพัฒนาการของงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชันและธรรมาภิบาลในประเทศไทย เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะต่อแนวทางการสนับสนุนการพัฒนางานวิจัยในประเด็นคอร์รัปชัน และธรรมาภิบาลในอนาคต
โครงการวิจัยและประสานงานเพื่อสังคมไทยไร้คอร์รัปชัน
เพื่อออกแบบงานวิจัยสำหรับแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันบนฐานการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงพัฒนาระบบและเครื่องมือใหม่ในการป้องกันและลดคอร์รัปชันในระดับพื้นที่
โครงการวิจัยเพื่อสังคมไทยไร้คอร์รัปชัน ระยะที่ 2
จัดทำข้อเสนอการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อต่อต้านการคอร์รัปชัน โดยเน้นแนวทางการวิจัยเพื่อทำความเข้าใจปัญหาคอร์รัปชันจากมุมมองของประชาชน ด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม (PAR) และกระบวนการ Design Thinking เต็มรูปแบบ
โครงการวิจัยการสังเคราะห์รูปแบบ กลไกและแนวทางการปลูกฝังเจตคติและวัฒนธรรมสุจริตเพื่อการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ศึกษาพัฒนาการของรูปแบบ กลไก และแนวทางการปลูกฝังเจตคติ และวัฒนธรรมสุจริตที่มีผลต่อการป้องกันการทุจริตของไทย และศึกษากรณีของต่างประเทศ เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอแนะต่อไป