ออกแบบเครื่องมือต่อต้านคอร์รัปชันให้เท่าทันการโกง

ในการพัฒนาและออกแบบเครื่องมือต่อต้านการคอร์รัปชันให้มีประสิทธิภาพ จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงหลักการสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ หลักการมีส่วนร่วม หลักความโปร่งใส และหลักความรับผิดชอบ รวมไปถึงการศึกษาข้อจำกัดของเครื่องมือแต่ละประเภท เพื่อนำมาบูรณาการและประยุกต์ใช้ให้เข้ากับบริบททางสังคม วัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจของแต่ละสังคม อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันด้วยเครื่องมือต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิผล

ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2545 ถึง พ.ศ. 2563 ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ได้มีความพยายามในการสร้างเครื่องมือเพื่อการต่อต้านการคอร์รัปชันในสังคม ซึ่งจากการศึกษาและรวบรวมเครื่องมือจำนวนกว่า 30 ชิ้น พบข้อสังเกตว่ากลไกการดำเนินงานของเครื่องมือต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่มีหลักการที่สำคัญร่วมกันอยู่ 3 ประการ ได้เเก่ หลักการมีส่วนร่วม (Participation) หลักความโปร่งใส (Transparency) และหลักความรับผิดชอบ (Accountability) โดยมีรายละเอียดในแต่ละประการ ดังนี้

หนึ่ง หลักการมีส่วนร่วม (Participation) หมายถึง การออกแบบเครื่องมือเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีช่องทางในการเข้ามามีส่วนร่วมในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การนำเสนอความคิดเห็น การประเมินความพึงพอใจ การร้องเรียนปัญหา และการมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดทำนโยบาย โดยจะเป็นการพัฒนาให้เครื่องมือสามารถช่วยให้การรายงานคอร์รัปชันมีความปลอดภัย และลดความเสี่ยงของผู้ใช้งาน ช่วยวิเคราะห์ผลและนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย รวมถึงสนับสนุนองค์ความรู้ที่จะช่วยเสริมพลังให้กับผู้ใช้งานในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งตัวอย่างของเครื่องมือในประเภทแรก ได้แก่ เพจต้องแฉ (Must Share) ACT Ai ประเทศไทย และเครื่องมือติดตามสถานการณ์คอร์รัปชันภาคประชาชน (Corruption Watch)

สอง หลักความโปร่งใส (Transparency) หมายถึง การเปิดเผยข้อมูลที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ และนำไปใช้กำกับติดตามการทำงานของรัฐบาล รวมถึงเปิดเผยข้อร้องเรียนสู่สาธารณะเพื่อให้เกิดการตรวจสอบ โดยในการพัฒนาเครื่องมือจะต้องช่วยให้การนำข้อมูลเปิดของภาครัฐมาเผยแพร่ในรูปแบบที่ง่ายต่อการสืบค้น เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการติดตาม และตรวจสอบการทำงานของภาครัฐได้โดยสะดวก รวมถึงการสร้างมาตรฐานในการจัดการชุดข้อมูลเปิด เพื่อให้ง่ายต่อการเชื่อมโยงข้อมูลกลับไปยังหน่วยงานภาครัฐได้ ซึ่งตัวอย่างของเครื่องมือในประเภทที่สองนี้ ได้แก่ เครื่องมือการเปิดเผยข้อมูลด้านงบประมาณ เช่น “gov” ประเทศสหรัฐอเมริกา “OpenSpending” ประเทศอังกฤษ และ “Jawnylublin.pl” ประเทศโปแลนด์

สาม หลักความรับผิดชอบ (Accountability) หมายถึง การมุ่งกำกับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีส่วนรับผิดชอบในการจัดการข้อร้องเรียนหรือปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเข้ามามีบทบาทในการดำเนินการและนำข้อมูลที่ได้จากประชาชนไปใช้ปรับปรุงการทำงานของหน่วยงาน โดยในการพัฒนาเครื่องมือจะต้องคำนึงถึงการออกแบบกลไกกำกับติดตามข้อร้องเรียนที่ได้รับจากผู้ใช้งาน และการมีส่วนร่วมของภาครัฐอย่างแข็งขัน รวมถึงการมีส่วนร่วมของภาคสื่อมวลชน เพื่อติดตามและตรวจสอบการตอบสนองข้อร้องเรียนของหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของการใช้งานเครื่องมือในระยะยาว ซึ่งตัวอย่างของเครื่องมือในประเภทสามนี้ ได้แก่ เครื่องมือ “LAPOR!” ของประเทศอินโดนีเซีย ที่เป็นช่องทางการร้องเรียนระดับชาติแบบเบ็ดเสร็จ (One-Stop Complaint-Handling) และเพจต้องแฉ (Must Share) ของประเทศไทยที่ได้ทำงานร่วมกับสำนักข่าวอิศรา ในการแจ้งเบาะแสและส่งต่อข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันเกาะติดสถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชัน

ดังนั้น การที่จะพัฒนาและออกแบบเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีสนับสนุน เพื่อพัฒนาระบบการทำงานต่อต้านคอร์รัปชันให้มีประสิทธิภาพและเสริมสร้างธรรมาภิบาลที่มีประสิทธิผล จึงควรที่จะต้องคำนึงถึงหลักการทั้งหมดตามที่กล่าวถึงในข้างต้น รวมไปถึงการศึกษาข้อจำกัดของแต่ละเครื่องมือ เพื่อนำมาบูรณาการและประยุกต์ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางสังคม วัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ซึ่งจะช่วยทำให้การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันด้วยเครื่องมือต่าง ๆ เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เอกสารอ้างอิง
รูปแบบ APA

ต่อภัสสร์ ยมนาค และสุภัจจา อังค์สุวรรณ. (2566). (ต่อต้าน) คอร์รัปชัน 101 ((Anti) Corruption 101). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
มีนาคม 2567
ผู้แต่ง
  • ศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชัน และส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค

หน่วยงานสนับสนุน
05_โลโก้ KRAC
หัวข้อ
Related Content

แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้การร่วมมือต่อต้านคอร์รัปชันในไทยไม่ได้ผล

ปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้การสร้างความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชันของประเทศไทยยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ไม่ว่าจะเป็นทั้งในด้านกลยุทธ์ ด้านโครงสร้าง ด้านแรงจูงใจ ด้านกลไกระหว่างองค์กร และด้านบุคคล …

แล้วที่ผ่านมาเราต่อต้านคอร์รัปชันกันยังไง

“คอร์รัปชัน” และ “การต่อต้านคอร์รัปชัน” ได้ถูกศึกษาและอธิบายถึงลักษณะและความหมายในแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ทั้งในด้านประเด็นและมุมมองที่มีต่อปัญหาผ่านแนวคิดที่หลากหลาย …

ออกแบบเครื่องมือต่อต้านคอร์รัปชันให้เท่าทันการโกง

ในการพัฒนาและออกแบบเครื่องมือต่อต้านการคอร์รัปชันให้มีประสิทธิภาพ จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงหลักการสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ หลักการมีส่วนร่วม หลักความโปร่งใส และหลักความรับผิดชอบ …

You might also like...

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | โควิดเป็นเหตุ: สำรวจสถานการณ์ทุจริตที่เพิ่มขึ้นในช่วงโรคระบาด

การระบาดของโควิด-19 นำมาซึ่งวิกฤตการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อทุกภาคส่วนทั่วโลก โดยพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นว่าการให้และเรียกรับสินบนในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นในช่วงโควิด-19 แล้วเราจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร ? อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความนี้เลย

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | “รังนก” ก็โกงได้ : ตรวจสอบช่องโหว่กลไกการให้สัมปทานรังนกไทย

ส่องกลไกสัมปทาน เมื่อการทุจริตรังนกอาจทำให้งบรั่วไหล หากไม่มีกลไกการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ แล้วเราจะป้องกันปัญหานี้ได้อย่างไร ? โดย KRAC สรุปมาให้เเล้วจากงานวิจัยเรื่อง “กระบวนการและการตรวจสอบการให้สัมปทานรังนกในภาคใต้ของประเทศไทย” (2562)

คิดด้วยพลเมือง(See-Think-Cen’) : สงกรานต์เป็นเทศกาลแห่งความสุขของใครกันแน่

ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุขและความชุ่มฉ่ำในเทศกาลแห่งความสุขอย่างเทศกาลสงกรานต์ หรือวันปีใหม่ไทย ที่เต็มไปด้วยความหมายด้านวัฒนธรรม สังคม วันที่ 13-14 เมษายน ก็ยังเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ และวันครอบครัวไทยอีกด้วย โดยตลอดช่วงเวลานี้ของทุกปีจะเป็นช่วงเวลาแห่งความอบอุ่นที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมากมายได้เดินทางกลับบ้านกลับภูมิลำเนาเพื่อไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ไปรวมญาติที่ไม่ได้พบกันนาน หรือไปเล่นน้ำคลายร้อนกัน