KRAC Hot News I อุบัติเหตุการก่อสร้างตามแนวถนนพระราม 2: ภาพสะท้อนปัญหาธรรมาภิบาลโครงการก่อสร้างภาครัฐไทย

เหตุการณ์อุบัติเหตุโครงสร้างทรุดตัวของการก่อสร้างตามแนวถนนพระราม 2 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต คงทำให้ใครหลายคนหวั่นใจกับการใช้รถใช้ถนนผ่านเส้นทางนั้นอยู่ไม่น้อย

 

น่าตกใจเมื่อย้อนดูสถิติอุบัติเหตุนับตั้งแต่การก่อสร้างโครงการนี้ พบว่ามีอุบัติเหตุมากกว่า 2,500 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 143 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1,441 ราย ซึ่งนี่ถือเป็นโครงการก่อสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่ามากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ แต่กลับไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจัง (1) 

 

แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือเมื่อลงรายละเอียดในตัวโครงการจัดซื้อจัดจ้างจากข้อมูลของกรมบัญชีกลาง ชี้ว่าการก่อสร้างทางด่วนพระราม 2 ถูกซอยย่อยมากถึง 18 สัญญา เป็นเงินงบประมาณกว่า 6 หมื่นล้านบาท

 

โดยแบ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ มูลค่ารวมกว่า 6 หมื่นล้านบาท คือ ทางยกระดับพระราม 2 มูลค่า 30,200 ล้านบาท และโครงการทางพิเศษสายพระราม 3- ดาวคะนอง-ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก มูลค่า 30,000 ล้านบาท

 

ฉะนั้น เป็นที่น่าสังเกตว่าโครงการก่อสร้างทั้งสองนี้มีการซอยสัญญาเพื่อทำการจัดซื้อจัดจ้างค่อนข้างมาก ที่สำคัญไปกว่านั้น ผู้รับเหมาจำนวนมากมาในลักษณะการร่วมทุนของกลุ่มต่าง ๆ

 

แม้ว่าจะยังไม่มีการตรวจพบว่าโครงการนี้มีการคอร์รัปชันหรือไม่  แต่เป็นที่น่าสงสัยว่าไม่มีการลงดาบบรรดาบริษัทรับเหมาอย่างจริงจังกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ที่สำคัญหนึ่งในบริษัทร่วมทุนยังมีคดีความผัวพันกับคดีคลองด่านอีกด้วย

 

แย่ไปกว่านั้น โครงการนี้มีความล่าช้าออกไปมาก แต่ภาครัฐยังคงใจดีต่อและยืดอายุสัญญาให้กับบริษัทที่มารับเหมา โดยไม่มีค่าปรับใด ๆ

 

สิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ระบุว่าปัจจุบันไทยยังไม่มีการขึ้นบัญชีดำผู้รับเหมา ยิ่งไปกว่านั้นคือรัฐจัดการอะไรไม่ได้กับบริษัทผู้รับงานที่นำงานไปปล่อยรับช่วงต่อกับบริษัทย่อยอื่น

 

นี่คือภาพสะท้อนปัญหาช่องโหว่ด้านธรรมาภิบาลในงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในภาครัฐของไทย ซึ่งถูกมองว่ามีการคอร์รัปชันอยู่ค่อนข้างมาก

 

ข้อมูลจากงานวิจัยโดย สุพรรณี ไชยอำพร และศิรินทร์ทิพย์ อรุณเรื่อ (2558) ชี้ว่าการทุจริตอาจจะทำให้งบประมาณหายไปสูงถึงร้อยละ 30 เฉพาะช่วงปี 2543-2549 ไทยอาจเสียงบประมาณจากการคอร์รัปชันในโครงการก่อสร้างสูงถึง 407,058.6 ล้านบาท (2) 

 

ลักษณะเช่นนี้ไม่เป็นผลดีต่อภาพรวมการพัฒนาประเทศในระยะยาว รวมถึงสวัสดิภาพของคนไทย ส่งผลให้ประเทศไทยในเวลาต่อมาเลือกเข้าร่วมโครงการ  ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือป้องกันคอร์รัปชัน และเพิ่มความโปร่งใสในงานก่อสร้างโครงการพื้นฐาน (Infrastructure Project) ของประเทศ

 

โครงการนี้มุ่งพิจารณาโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่เกี่ยวเนื่องกับการก่อสร้างที่มีมูลค่าสูงซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายในการกำหนดว่าโครงการใดควรจัดอยู่ใน CoST

 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากการประชุมเชิงปฏิบัติการ Infrastructure Anti-Corruption Accelerator (IACA) Thailand Bootcamp ของ CoST ประเทศไทย ร่วมกับองค์การระหว่างประเทศ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม สะท้อนให้เห็นว่าระบบดังกล่าวยังคงมีข้อบกพร่องอยู่มาก โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของประเทศไทย

 

ภาคธุรกิจจำนวนหนึ่งสะท้อนว่าปัญหาการคอร์รัปชันในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเริ่มต้นตั้งแต่การร่าง ข้อกําหนดโครงการ หรือ TOR ซึ่งบางหน่วยงานมีรายละเอียดเฉพาะเจาะจง จนมีบริษัทจำนวนน้อยรายที่สามารถเข้าร่วมประมูลงานได้

ยิ่งไปกว่านั้นการเข้าถึงข้อมูลการประมูลงานถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำคัญที่ส่งผลให้เกิดปัญหาการคอร์รัปชันในการประมูลงานภาครัฐได้ง่าย เพราะขาดการตรวจสอบจากภาคส่วนอื่น ๆ

 

สอดคล้องกับงานวิจัยที่อ้างไว้ข้างต้นที่ระบุชัดเจนว่าปัญหาใหญ่ในการคอร์รัปชันของโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่มาจากระบบการเมืองที่ใช้อำนาจในเชิงอุปถัมภ์ กับบรรดานักธุรกิจผู้ให้ทุนสนับสนุนในช่วงเลือกตั้ง ที่เป็นลักษณะการกินตามน้ำ ทวนน้ำ ล็อกสเปก ฮั้วงาน รวมถึงการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย โดยมีผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย ได้เเก่ นักการเมือง ข้าราชการ และผู้รับเหมาก่อสร้าง (3)

 

ในเชิงนโยบายจึงมีการนำเสนอให้ปรับปรุงระบบการแสดงผลการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐใหม่ให้มีความโปร่งใส เปิดเผย และเข้าถึงง่าย เพื่อให้ประชาชนและภาคประชาสังคมสามารถเข้าไปตรวจสอบการประมูลงานภาครัฐได้สะดวกขึ้น

 

การเปิดเผยข้อมูลยังมีส่วนสำคัญต่อการสร้างความโปร่งใส และเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนในการทำงานกับภาครัฐเพื่อป้องกันการคอร์รัปชันตั้งแต่ต้นน้ำ เมื่อมีการตรวจพบความผิดปกติในการประมูลงาน 

ปีที่แต่ง (พ.ศ.)
2568
ผู้แต่ง

ศุภวิชญ์ แก้วคูนอก

หน่วยงานสนับสนุน
05_โลโก้ KRAC
โลโก้คณะเศรษฐศาสตร์ (ภาษาไทย)

หัวข้อ
Related Content

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | ไขแนวคิด พิชิตความสำเร็จของหน่วยงานรัฐ ในการสร้างธรรมาภิบาล ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

สร้างความสำเร็จในหน่วยงานด้วย “หลักธรรมาภิบาล” ตามแผน ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยมีตัวอย่าง 6 หน่วยงานรัฐไทยที่ไขแนวคิด พิชิตความสำเร็จในการสร้างธรรมาภิบาล…ปัจจัยความสำเร็จเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้าง ? และผลลัพธ์ของการมีธรรมาภิบาลจะเป็นเช่นไร ? มาร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | โควิด-19 ส่งผลอย่างไรต่อสถานการณ์คอร์รัปชันและธรรมาภิบาล ?

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่สุขภาพและเศรษฐกิจ แต่ยังทำให้การต่อต้านคอร์รัปชันและธรรมาภิบาลเผชิญความท้าทายใหม่ ๆ เช่น การใช้อำนาจพิเศษของรัฐ ความไม่เท่าเทียมที่เพิ่มขึ้น และการจัดซื้อจัดจ้างแบบฉุกเฉินที่เสี่ยงต่อการทุจริต แล้วเราจะฟื้นฟูผลกระทบเหล่านี้ได้อย่างไร ?

You might also like...

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | “รังนก” ก็โกงได้ : ตรวจสอบช่องโหว่กลไกการให้สัมปทานรังนกไทย

ส่องกลไกสัมปทาน เมื่อการทุจริตรังนกอาจทำให้งบรั่วไหล หากไม่มีกลไกการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ แล้วเราจะป้องกันปัญหานี้ได้อย่างไร ? โดย KRAC สรุปมาให้เเล้วจากงานวิจัยเรื่อง “กระบวนการและการตรวจสอบการให้สัมปทานรังนกในภาคใต้ของประเทศไทย” (2562)

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | คอร์รัปชันในอุตสาหกรรมประมงไทย : ปัญหาที่กระทบเศรษฐกิจ สิทธิมนุษยชน และภาพลักษณ์ประเทศ

จะแก้อย่างไรถ้าอุตสาหกรรมประมงไทยคอร์รัปชัน ? ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมประมงระดับโลกของไทยอีกด้วย โดย KRAC สรุปมาให้เเล้วจากงานวิจัยเรื่อง “การศึกษาวิเคราะห์การทุจริตคอร์รัปชันขบวนการเครือข่ายนายหน้าแรงงานข้ามชาติเมียนมาในอุตสาหกรรมประมงต่อเนื่องของประเทศไทย” (2562)

KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | เบื้องหลังการทุจริตภาษีศุลกากร: เมื่อบริษัทปลอมกลายเป็นเครื่องมือเลี่ยงภาษี

บริษัทปลอม vs ศุลกากร : หนีภาษีเขาทำกันอย่างไร ? วิธีป้องกันบริษัทปลอม แหล่งหนีภาษาศุลกากรหลักหมื่นล้าน !! กระบวนการเหล่านี้จะเป็นอย่างไร ? แต่ละตัวละครทำหน้าที่อะไร สรุปมาให้เเล้วจากงานวิจัยเรื่อง “การศึกษากลุ่มอิทธิพลซึ่งนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบ: กรณีศึกษาการทุจริตภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีศุลกากรในประเทศไทย” (2561)