
จากผลสำรวจสู่งานวิจัยและทางแก้ไขปัญหาการติดสินบนและการทุจริตใน SMEs ณ สหราชอาณาจักร
องค์กรวิชาชีพบัญชีระดับสากล (the Association of Chartered Certified Accountants; ACCA) ได้จัดทำรายงานซึ่งเผยถึงผลกระทบอย่างกว้างขวางทั่วโลกจากการติดสินบนและการทุจริตในธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises; SMEs) โดยผลการสำรวจพบว่า 59% ของผู้ประกอบการและที่ปรึกษาทางธุรกิจมักกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดจากการทุจริต ซึ่งเชื่อว่าการต่อต้านการทุจริตจะทำให้เสียโอกาสทางการค้าต่าง ๆ
รายงานดังกล่าวยังมีการเน้นย้ำถึงประโยชน์ของ “นโยบายต่อต้านการติดสินบน (Anti-Bribery Policies)” โดย 77% ของผู้ตอบแบบสำรวจทั่วโลก และ 67% ของผู้ตอบแบบสำรวจในสหราชอาณาจักรก็เห็นพ้องต้องกันว่าการมีนโยบายต่อต้านการติดสินบนช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินกิจการของที่ปรึกษาทางธุรกิจหรือผู้ประกอบการรายใหม่ที่ต้องการเปิดธุรกิจของตนเองและการบริโภคของลูกค้า นอกจากนี้ 68% ของผู้ตอบแบบสำรวจทั่วโลกและในสหราชอาณาจักรยังเชื่อว่าการมีนโยบายต่อต้านการติดสินบนจะเพิ่มโอกาสในการได้ร่วมลงทุนและสนับสนุนจากองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่และหน่วยงานภาครัฐ
คุณ Jason Piper หัวหน้าฝ่ายภาษีและกฎหมายธุรกิจของ ACCA ยังได้กล่าวถึงผลกระทบที่เป็นอันตรายในระยะยาวจากการทุจริตว่า “การทุจริตส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก และขัดขวางการลงทุนในธุรกิจขนาดเล็กหลายแห่งที่จะทำให้ไม่มีอำนาจต่อรองเพียงพอที่จะปฏิเสธเมื่อมีการเรียกร้องสินบน ทำให้ผู้ประกอบการรายต่อ ๆ ไปต้องเลือกระหว่าง ‘การจ่ายสินบน’ กับ ‘การสูญเสียโอกาสทางการค้าหรือธุรกิจ’ ซึ่งผู้ประกอบการที่ต้องเลี้ยงครอบครัวก็ไม่มีทางเลือกมากนัก”
รายงานนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ธุรกิจและหน่วยงานกำกับดูแลด้านการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน มีข้อมูลและเครื่องมือที่จำเป็นในการกำจัดการทุจริตและคอร์รัปชัน โดยแนะนำว่าหน่วยงานต่าง ๆ ควรนำเทคโนโลยีในการตรวจจับและป้องกันการทุจริต เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับผู้แจ้งเบาะแส (Whistleblower Online Platform) ที่ปลอดภัยจากการไม่เปิดเผยตัวตนของผู้แจ้งเบาะแสที่จะมีการนำเอาปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence; AI) มาวิเคราะห์ข้อมูลจากการร้องเรียนถึงรูปแบบของลักษณะเสี่ยงต่อการเกิดทุจริตและรับสินบนที่จะมีการเก็บข้อมูลและคาดการณ์เหตุในลักษณะเดียวกันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต (Predictive Analytics) และการเก็บข้อมูลทั่วโลก (Global Data) พร้อมกับการใช้ห่วงโซ่หน่วยข้อมูล (Blockchain) เพื่อสร้างบันทึกที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ที่คาดการณ์ว่าจะช่วยลดโอกาสในการทุจริตเพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูล
จากรายงานที่สำรวจผลกระทบอย่างรุนแรงของการติดสินบนและการทุจริตต่อ SMEs จากทั่วโลกก็สามารถที่จะนำมาปรับใช้ในประเทศไทยได้ เช่น การนำข้อมูลต่าง ๆ ไปต่อยอดเพื่อปรับปรุงนโยบายต่อต้านการติดสินบนและการทุจริตในธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการตรวจจับและป้องกันการทุจริตที่จะเกิดในอนาคต โดยเฉพาะการสนับสนุนให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อมเข้าใจถึงประโยชน์ของการต่อต้านการติดสินบนร่วมกัน

ศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอร์รัปชัน และส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค

หัวข้อ
KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | โควิดเป็นเหตุ: สำรวจสถานการณ์ทุจริตที่เพิ่มขึ้นในช่วงโรคระบาด
การระบาดของโควิด-19 นำมาซึ่งวิกฤตการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อทุกภาคส่วนทั่วโลก โดยพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นว่าการให้และเรียกรับสินบนในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นในช่วงโควิด-19 แล้วเราจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร ? อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความนี้เลย
KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | แก้เกมฟอกเงิน แก้โกงงบประมาณ
ปัญหาฟอกเงินไทย อะไรคือจุดอ่อน ? ชวนสำรวจแนวทางการป้องกันฟอกเงินด้วยการแก้กฎหมายบางมาตรา และสร้างความร่วมมือเพื่อให้เกิดความโปร่งใส จากงานวิจัยเรื่อง การต่อต้านการคอร์รัปชัน: มาตรการการควบคุมการเคลื่อนไหวของเงิน (2558)
KRAC คัดสรร เล่างานวิจัยไทย | เบื้องหลังการทุจริตภาษีศุลกากร: เมื่อบริษัทปลอมกลายเป็นเครื่องมือเลี่ยงภาษี
บริษัทปลอม vs ศุลกากร : หนีภาษีเขาทำกันอย่างไร ? วิธีป้องกันบริษัทปลอม แหล่งหนีภาษาศุลกากรหลักหมื่นล้าน !! กระบวนการเหล่านี้จะเป็นอย่างไร ? แต่ละตัวละครทำหน้าที่อะไร สรุปมาให้เเล้วจากงานวิจัยเรื่อง “การศึกษากลุ่มอิทธิพลซึ่งนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบ: กรณีศึกษาการทุจริตภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีศุลกากรในประเทศไทย” (2561)
